ตั้งแต่เล็กจนเติบใหญ่ได้เรียนรู้ แม่เฝ้าดูอยู่ข้างกายไม่หน่ายหนี
อยากเห็นลูกสุขสบายในชีวี
เป็นคนดีที่สังคมนั้นชมเชย
แม่เปรียบเสมือนครูคนแรกของฉัน
เป็นคนสอนให้ฉันรู้จักกับคำ คำแรกของชีวิต คำแรกที่ฉันพูดได้คือคำว่าแม่
คำที่มีความหมายมากที่สุดในชีวิตของฉันแม่ตั้งท้องฉันมาตั้งเก้าเดือน
หนักแค่ไหนแม่ไม่เคยบ่น แม่เสียสละทั้งกายและใจเพื่อลูกได้
ถึงแม้จะหิวขนาดไหนแม่ก็ไม่เคยบ่นเลย ขอให้ลูกได้อิ่มก็พอแล้ว
แม่เปรียบเสมือนดวงอาทิตย์ที่คอยส่องแสงให้ฉันในยามที่ฉันท้อแท้ หมดแรง หมดหวัง
กำลังใจทุกอย่างก็มีแต่แม่ที่คอยให้กำลังใจให้ฉันเสมอมา
ก้าวแรกในชีวิตของฉัน คำพูดคำแรกเกิดขึ้นได้ก็เพราะแม่
แม่ที่คอยเสียสละหยาดเหงื่อแรงกายเพื่อฉัน
ทำงานหนักเพื่อฉันทุกหยาดเหงื่อที่ไหลหยดลงมาแม่ไม่เคยคิดว่ามันคือความเหนื่อยหรือความยากลำบากแม้แต่น้อยแต่แม่ของฉันคิดว่าหยาดเหงื่อที่ไหลหยดลงมานั้นคืออนาคตของฉัน
แม่ของฉันเปรียบเสมือนพยาบาลที่ทำงานดูแลฉันโดยไม่คิดค่าแรงใดๆเลย
ยามที่ฉันป่วยไข้ ไม่สบายก็มีแต่แม่ที่คอยดูแลอยู่ตลอดเวลา
บางคืนก็ไม่ได้นอนด้วยซ้ำไป แต่ฉันก็ไม่เคยเห็นแม่บ่นเลยแม้แต่น้อย
บางครั้งในเวลาที่ฉันเศร้าไม่สบายใจทุกข์ใจ
ฉันก็มองกลับไปดูก็เห็นแต่แม่ที่เศร้ากว่า
ตั้งแต่เล็กจนเติบใหญ่มาจนถึงทุกวันนี้ก็เพราะแม่
บางครั้งที่ฉันทำผิดก็ดุด่าแต่ฉันก็เข้าใจว่าทุกคำที่แม่ด่าคือความหวังดีไม่อยากให้ลูกทำผิด
ฉันจึงจะพยายามทำทุกอย่างให้แม่มีคามสุข ไม่ผิดหวังกับฉันที่แม่ทำทุกอย่างทนหนักทนลำบากในการทำงานที่แลกด้วยหยาดเหงื่อก็ขอเพียงแต่เห็นลูกประสบความสำเร็จในชีวิต
ฉันจะพยายามตั้งใจเรียนให้สบกับที่แม่ของฉันได้ลงทุนไปด้วยหยาดเหงื่อ ฉันจะไม่ยอมให้เหงื่อทุกหยดของแม่สูญเปล่า
สองมือนั้นประกบลง พนมไหว้ ด้วยหัวใจ
ที่คงรัก แม่เสมอ
แม่เจ็บช้ำ
เศร้าใจ นอนละเมอ ลูกพร่ำเพ้อ
แค่ไหน แม่เตือนเอา
ครบกำหนด ลูกเกิด วันเจ็บ แม่ทนเก็บ ความเศร้า
ลูกสมหวัง
ลูกผิดพลาด
ทุกอย่าง แม่รับฟัง ลูกสมหวัง
แม่มีสุข หมดทุกข์ใจ